เช็คพฤติกรรมทำร้ายตับ ! หากทำอยู่..ระวัง ตับแข็ง

ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมทำร้ายกันโดยไม่รู้ตัว อาจจะด้วยไลฟ์สไตล์ในยุคใหม่ที่ผู้คนเร่งรีบไม่ค่อยมีเวลา และนั่งติดหน้าจอกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ ตับมีปัญหา ได้โดยที่เราอาจจะเผลอมองข้ามไป รวมถึงบางพฤติกรรมที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ทำร้ายตับได้อย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน.. วันนี้มาลองเช็คกันดูได้เลยว่า คุณกำลังทำร้ายตับอยู่หรือเปล่า..? หากกำลังทำอยู่แล้วไม่รีบหาตัวช่วยมาบำรุงตับให้บ้าง ตับแข็ง และมะเร็งตับก็ไม่ไกลเกินเอื้อม

เช็ค 7 พฤติกรรมส่อทำ ตับแข็ง !

1# นั่งทำงานอยู่กับที่นาน ๆ

ใครที่เป็นมนุษย์ออฟฟิศ วัน ๆ ต้องนั่งทำงานอยู่แต่หน้าจอ ไม่ค่อยได้เดินไปไหน ให้รีบประคบประหงมโอ๋ตับให้ดี ๆ เพราะวันนึงเราต้องทำงานตั้งแต่ 7-8 ชั่วโมง เรียกได้ว่ากินเวลาไปถึง 1 ใน 3 ของวัน ทว่าเวลาได้ขยับร่างกายอย่าง การเดิน วิ่ง ให้เกิดการใช้พลังงานกลับทำได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของหลาย ๆ โรคที่จะมารุมเร้า หลายคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ในทุกวัน ก็เสี่ยงที่จะมีภาวะไขมันพอกตับได้ด้วยเช่นกัน

2# ขาดการออกกำลังกาย

แน่นอนว่าออกกำลังกายย่อมดีต่อสุขภาพ โดยใน 1 สัปดาห์แนะนำให้ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที หรืออย่างน้อย 60 นาทีก็จะดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ออกกำลังเลย ก็ปราศจากการดึงพลังงานไปใช้ หากในหนึ่งวันเราทานอาหารเข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกแป้งและน้ำตาล แล้วร่างกายดึงมาใช้ไม่หมด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโรคอ้วนมาเคาะประตูถามหาได้ยังไง และสิ่งที่มักจะมาคู่กันถึงร้อยละ 90 เลยก็คือโรคไขมันพอกตับนั่นเอง

3# ไม่ทานอาหารเช้า

มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่ร่างกายจะได้นำไปเป็นพลังงานเพื่อทำกิจกรรมในตลอดทั้งวัน หากไม่รับประทานให้ตรงเวลา หรืองดมื้อนี้ไปก็ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำ สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่พอ รวมถึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ท้องอืด ทำให้ ตับมีปัญหา ไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติอีกด้วย ซึ่งการที่ตับผู้รับหน้าที่ สร้าง ซ่อมแซม ควบคุม เก็บกัก และ ขับของเสีย ออกจากร่างกายทำงานเต็มประสิทธิภาพไม่ได้ ย่อมส่งผลต่อร่างกายองค์รวมให้ล้มป่วยได้

4# สะสมความเครียด

ปัญหาที่รุมเร้าก่อให้เกิดความเครียดอาจส่งผลต่อตับได้ เพราะคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด จะถูกหลั่งออกมาเมื่อเรารู้สึกเครียด และยิ่งเครียดจัด ฮอร์โมนตัวนี้ก็ยิ่งสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เราอยากอาหารมากขึ้น และภูมิคุ้มกันก็ลดลง จนท้ายที่สุดก็หนีไม่พ้นไขมันพอกตับนั่นเอง

5# นอนดึก พักผ่อนน้อย

ช่วงเวลาแห่งการนอน คือเวลาที่ร่างกายเราจะได้ซ่อมแซมเซลล์และอวัยวะต่าง ๆ ที่สึกหรอ รวมถึงปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งจะส่งผลต่ออารมณ์และสุขภาพโดยรวม หากเราไม่ยอมให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ตับผู้ทำงานหนักอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำงานหนักมากขึ้นไปอีก

6# ดื่มแอลกอฮอล์

เป็นที่รู้กันดีว่า ใครที่ชอบดื่มเหล้า เบียร์ โอกาสเข้าเส้นชัยที่สลักป้ายว่า ตับแข็ง มีสูงมาก และหากยังปล่อยปละละเลยไม่ยอมดูแลตับต่อ ก็รับถ้วยมะเร็งตับต่อได้เลย เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อตับอย่างมาก เมื่อเข้าสู่ร่างกายเราแล้วสิ่งนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสารพิษและสารอนุมูลอิสระ ซึ่งทำให้ตับอักเสบและเซลล์เสียหายได้

7# ทานของทอด ของมัน

สำหรับสายบุฟเฟต์ หรือปิ้งย่างอาจจะต้องลดปริมาณกันลงเสียหน่อย เพราะอาหารติดมัน เนื้อสัตว์สีแดงอย่างเนื้อวัว หนื้อหมู รวมถึงท็อปปิ้งกรุบกริบที่เราเอามาเสริมความอร่อยอย่างชีส เนย ทั้งหมดทั้งมวล นอกจากจะเป็นของโปรดเราแล้ว ยังเป็นที่โปรดปรานของไขมันพอกตับอีกด้วย

พฤติกรรมทั้งหลายเหล่านี้หากหลีกเลี่ยงได้จาก ตับมีปัญหา จะกลายเป็นตับที่มีสุขภาพดีได้ไม่ยาก.. ตับดี = ชีวิตดี เริ่มดูแลตับกันได้ตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป