“โรคกินไม่หยุด” กับปัญหาที่ไม่น่ามองข้าม

สังเกตให้ดี ว่าอาการแบบนี้คุณเป็นอยู่มั้ย? เบื่อก็กิน ว่างก็กิน ยิ่งเครียดก็ยิ่งกิน! ทำงานที่บ้าน ของกินไม่เคยขาด เอะอะแกะเข้าปากจนขยะกองพะเนิน  จบที่อึดอัดจนนั่งเครียด อาการแบบนี้ยังเรียกปกติอยู่หรือเปล่า?

หากคุณอารมณ์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ในใจต้องการแค่อาหารมาเยียวยา นอกจากโรคอ้วนที่อาจเป็นสาเหตุแล้ว ก็อาจจะมาจากเรื่องของสภาวะทางจิตใจที่ถูกกระทบ หรือสารเคมีในสมองอย่าง เลปติน (Leptin) และเกรลิน (Ghrelin) เป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมามากผิดปกติ ทำให้รู้สึกว่าร่างกายอยากอาหาร จนนำพาสู่โรค “กินไม่หยุด” ได้

โรคกินไม่หยุด หรือ Binge Eating Disorder คืออาการที่กินอาหารมากจนผิดปกติ อาจเกิดได้ตั้งแต่คนที่อายุ 20 ขึ้นไป ซึ่งจะสามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่องและเป็นปริมาณที่มาก ทั้งที่อิ่มหรือกินไปแล้ว ก็ไม่สามารถหยุดกินเพราะควบคุมตัวเองไม่ได้ จนกว่าจะถึงจุดที่รู้สึกไม่สบายตัว หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นโรคเล็กๆ แต่หารู้ไม่ หากไม่ได้รับการรักษาให้ถูกจุดอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกับตับที่ต้องรับภาระหนักอึ้ง เมื่อตับเกินรับไหว อวัยวะอื่นๆก็เตรียมรอรับผลกระทบแบบที่คุณเองก็คาดไม่ถึง เพราะแต่ละเมนูที่เราทานไปโดยที่ไม่ได้พิจารณาให้ดีนั้น อาจเต็มไปด้วยน้ำตาล เกลือ โซเดียมไขมันในรูปแบบต่างๆทีเต็มไปด้วยคอลเรสเตอรอลสูงเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้แต่ละวัน จากโรคอ้วนที่ต้อง

กังวลแล้ว ยังเสี่ยงเป็นโรคต่างๆอีกมากมาย ทั้งโรคหัวใจ รวมถึงไขมันพอกตับอีกด้วย

ใครที่ต้องสงสัยว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ต้องหมั่นสังเกตตัวเองให้ดี คอยควบคุมพฤติกรรมการกินให้อยู่ในวิสัยปรกติและดูแลตับไปควบคู่กัน ให้ห่างไกลโรคตับด้วย เฮฟฟีก้า เพียงวันละ 1 ช่วยลดไขมันเลวในเซลล์ตับและเพิ่มไขมันดี ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสุขภาพอื่นๆที่อาจตามมาได้อีกทางเหมือนที่เค้ากล่าวไว้ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้”