ในปัจจุบัน พบว่าคนไทย 30 % มีปัญหานอนไม่หลับในช่วงกลางคืน หรือ นอนหลับไม่เพียงพอ นอนหลับไม่สนิท และไม่มีคุณภาพ ส่วนอีก 10% ของกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีปัญหาการนอนไม่หลับเรื้อรัง ซึ่งการนอนหลับไม่เพียงพอนี้ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ โรคประจำตัว ภาวะภูมิต้านทานต่ำ และเพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
วิธีการที่จะช่วยให้นอนหลับได้เพียงพอและมีสุขอนามัยที่ดีในการนอนหลับ มีดังนี้
1. การออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น มีผลงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่า การออกกำลังกายทุกวันอย่างน้อยครั้งละ 20-30 นาทีหรืออย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ สามารถช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น
2. การทานอาหาร ไม่ควรรับประทานอาหารมื้อดึก ควรเว้นระยะเวลาทานอาหารกับเวลาก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพราะการรับประทานอาหารใกล้เวลานอนจะทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักเพื่อย่อยอาหารส่งผลให้เกิดการนอนที่ไม่มีคุณภาพจนนำไปสู่การนอนไม่หลับได้
3. อย่านอนตอนกลางวันหรือตอนเย็น ควรอดทนรอให้ถึงเวลาเข้านอนเพราะการนอนหลับตอนกลางวันหรือตอนเย็นจะทำให้ร่างกายรู้สึกว่าได้รับการพักผ่อนแล้วกลางคืนจะยิ่งหลับยากมากขึ้น ถ้าอ่อนเพลียมากสามารถนั่งงีบได้ไม่เกิน 30 นาที
4. งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม โกโก้และแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะว่านิโคตินและคาเฟอีนมีผลโดยตรงต่อการนอนไม่หลับ
5. งดการเล่นอุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อสาร เช่น คอมพิวเตอร์มือถือ ไอแพด ฯลฯ อย่างน้อย 30 นาที – 1 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อปรับให้คลื่นสมองผ่อนคลายก่อนเข้านอน
6. ปรับห้องนอนให้เหมาะสม มีอุณหภูมิที่พอดี มีเครื่องนอน เช่น หมอนและผ้าห่มที่สร้างความสบายนอนในห้องที่ไม่มีเสียงดังรบกวนจนเกินไป ไม่นอนเปิดไฟหรือโทรทัศน์
7. คุณไม่ควรดื่มน้ำาปริมาณมากๆ หลังอาหารเย็น และควรเข้าห้องน้ำปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน เพราะการปวดปัสสาวะกลางดึกจะรบกวนการนอนได้
การปรับตัวเพื่อการนอนหลับที่ดีของคุณมักจะต้องใช้เวลา ความอดทนและความมุ่งมั่นอย่างมากเพื่อให้คุณสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ในระหว่างเส้นทางที่มุ่งไปสู่ความสำเร็จของการนอนหลับได้ดีตามธรรมชาติ แต่หากคุณสามารถที่จะปรับเปลี่ยนความคิด พฤติกรรมและสุขนิสัยที่เป็นพื้นฐานที่ดีของการนอนหลับได้แล้ว ท้ายที่สุดคุณก็จะเป็นคนหนึ่งที่มีความสุขกับการนอนหลับในยามค่ำคืนเช่นเดียวกับคนทั่วไป