ตับอักเสบ (Hepatitis) คือภาวะที่เซลล์ตับเกิดการอักเสบจากเชื้อไวรัส สารพิษ แอลกอฮอล์ หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ผู้คนรับประทานอาหารมัน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนอนดึกจนกลายเป็นเรื่องปกติ ตับของเราจึงต้องทำงานหนักกว่าที่ควรจะเป็น
ทำความเข้าใจ “ตับอักเสบ” ให้ลึกขึ้น
ตับเป็นอวัยวะขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่มากกว่า 500 อย่าง เช่น กรองสารพิษจากอาหารและยา ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และผลิตน้ำดีเพื่อช่วยย่อยไขมัน ดังนั้นเมื่อเกิดการอักเสบ เซลล์ตับจะถูกทำลาย ส่งผลให้ระบบการทำงานภายในร่างกายเสียสมดุล
ตับอักเสบมีกี่ชนิด
โดยทั่วไป “ตับอักเสบ” แบ่งออกเป็นหลายชนิด ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ
- ตับอักเสบเอ (Hepatitis A) – เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส มักหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์
- ตับอักเสบบี (Hepatitis B) – ติดต่อผ่านเลือด หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หากเป็นเรื้อรังจะเสี่ยงต่อมะเร็งตับ
- ตับอักเสบซี (Hepatitis C) – ติดต่อทางเลือด เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เป็นชนิดที่อันตรายและเรื้อรังได้ง่าย
- ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ – ดื่มสุราหนักจนทำให้เซลล์ตับอักเสบและเกิดพังผืด
- ตับอักเสบจากไขมันพอกตับ – ไขมันที่สะสมในตับนาน ๆ จนกลายเป็นการอักเสบเรื้อรัง
อาการของโรคตับอักเสบ
ในระยะเริ่มต้นของโรค ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัว เพราะอาการจะค่อย ๆ ปรากฏเมื่อเซลล์ตับถูกทำลายไปมากแล้ว อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- รู้สึกเหนื่อยง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
- แน่นชายโครงขวา หรือปวดท้องบ่อย
- คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
- ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระสีซีด
- ผิวเหลือง ตาเหลือง
ใครบ้างที่มีความเสี่ยงต่อโรคตับอักเสบ
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- ผู้ที่รับประทานยาบางชนิดเป็นเวลานาน
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน
- ผู้ที่มีประวัติโรคไวรัสตับอักเสบบีหรือซีในครอบครัว
- ผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ
วิธีดูแลและฟื้นฟูตับให้แข็งแรง
แม้ว่าตับจะมีความสามารถในการฟื้นตัวได้เอง แต่ถ้าปล่อยให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง จะกลายเป็นพังผืดในตับ ดังนั้นการดูแลตั้งแต่ตอนนี้คือสิ่งสำคัญ
- ลดการดื่มสุราและของหวาน เพราะทำให้ตับทำงานหนัก
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และอาหารที่มีใยอาหารสูง
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ตับขับสารพิษได้ดีขึ้น
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- เสริมสารบำรุงตับจากธรรมชาติ เช่น มิลค์ทิสเซิล (Milk Thistle), อาร์ติโชค (Artichoke) หรือขมิ้นชัน
การป้องกันตับอักเสบที่ควรทำเป็นประจำ
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบี
- หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
- ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
- กินอาหารสุกและสะอาดเท่านั้น
- ตรวจสุขภาพตับประจำปีอย่างน้อยปีละครั้ง
โรคตับอักเสบอาจไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก แต่เป็นภัยเงียบที่ค่อย ๆ ทำลายตับโดยไม่รู้ตัว การดูแลตับไม่ใช่เรื่องยาก แค่ปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ เช่น งดแอลกอฮอล์ กินอาหารดี นอนหลับให้เพียงพอ และเสริมด้วย อาหารเสริมบำรุงตับ จากธรรมชาติ ก็ช่วยลดความเสี่ยงและฟื้นฟูตับให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง
“อย่ารอให้ตับส่งสัญญาณ เพราะเมื่อถึงตอนนั้น…อาจสายเกินไป”