ตับเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักมากที่สุดอวัยวะหนึ่งในร่างกาย เพราะทำหน้าที่ตั้งแต่การขับสารพิษ กรองของเสีย ย่อยไขมัน ไปจนถึงการควบคุมระดับฮอร์โมนและพลังงานให้สมดุล ดังนั้นเมื่อเราดูแลตัวเองไม่ดี เช่น กินอาหารมันจัด ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย หรือมีความเครียดสะสม ตับจะเริ่มเสื่อมสภาพโดยที่เราไม่รู้ตัว อาหารเสริมบำรุงตับจึงเป็นตัวช่วยเสริมที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของตับ ทำให้ตับทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับในอนาคต
ตับอ่อนล้าคืออะไร? ทำไมหลายคนมีปัญหาโดยไม่รู้ตัว
ภาวะ “ตับอ่อนล้า” คือสภาวะที่ตับต้องทำงานหนักจนประสิทธิภาพลดลง ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น อ่อนเพลียเรื้อรัง ค่าตับสูง แน่นท้องง่าย ผิวหมอง ไม่สดใส หรือมีไขมันพอกตับโดยไม่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์เลย ปัจจุบันพบผู้ที่มีปัญหาไขมันพอกตับเพิ่มขึ้นมากในคนอายุ 20–40 ปี ส่วนใหญ่มาจากอาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิต
อาหารเสริมบำรุงตับประกอบด้วยอะไรบ้าง?
1) ซิลีมาริน (Silymarin)
สารสกัดจาก Milk Thistle ที่ช่วยปกป้องเซลล์ตับ ลดการอักเสบ และช่วยให้ตับฟื้นตัวเร็วขึ้น
2) ขมิ้นชัน (Curcumin)
มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ออกฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบของตับและระบบย่อยอาหาร
3) โคลีน และอินโนซิทอล
ช่วยลดการสะสมไขมันในตับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ
4) วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex)
ช่วยเผาผลาญพลังงาน ลดภาระการทำงานของตับในกระบวนการเมตาบอลิซึม
5) วิตามินซี / วิตามินอี
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์ตับไม่ให้เสื่อมเร็วจนเกินไป
ใครที่ควรเริ่มดูแลตับด้วยอาหารเสริม?
- ผู้ที่ตรวจพบค่าตับ (AST/ALT) สูง
- ผู้ที่มีไขมันพอกตับ
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- คนที่นอนดึกเรื้อรังหรือพักผ่อนน้อย
- ผู้ที่มีพฤติกรรมกินอาหารมันจัด หวานจัด หรือฟาสต์ฟู้ดบ่อย
- ผู้ที่ทานยาเรื้อรังเป็นเวลานาน
ประโยชน์ของอาหารเสริมบำรุงตับ
- ช่วยลดการอักเสบในตับ
- ช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับที่ถูกทำลาย
- ลดภาวะค่าตับสูง
- ช่วยลดระดับไขมันพอกตับ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการขับสารพิษของร่างกาย
- ช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น อ่อนเพลียน้อยลง
ข้อควรระวังในการเลือกอาหารเสริมบำรุงตับ
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี อย. และโรงงานผลิตมาตรฐาน
- ไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาว่ารักษาโรคได้ทันที
- หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
- ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
เคล็ดลับดูแลตับให้แข็งแรงในชีวิตประจำวัน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 6–8 แก้ว
- ลดอาหารทอด ของมัน และอาหารแปรรูป
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มให้น้อยลง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้พอ นอนก่อนเที่ยงคืนดีที่สุด
- ตรวจสุขภาพตับปีละ 1 ครั้ง
อาหารเสริมบำรุงตับเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูตับ ลดค่าตับสูง หรือป้องกันปัญหาไขมันพอกตับในอนาคต แม้จะเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์ แต่ผลลัพธ์จะชัดเจนที่สุด เมื่อใช้ควบคู่กับการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การกินดี นอนดี และออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากคุณต้องการเริ่มต้นดูแลสุขภาพตับของตัวเอง เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ เพราะ “ตับดี = สุขภาพดีทั้งระบบ”
