รู้หรือไม่ว่า อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่ได้เกิดจากการพักผ่อนน้อยเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาจมีสาเหตุจาก “การขาดวิตามินและสารอาหารสำคัญ” ที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ในการสร้างพลังงานและซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนเร่งรีบ รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา หรือเลือกกินแต่ของสะดวกสำเร็จรูป ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารโดยไม่รู้ตัว
วิตามินที่ขาดแล้วทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย
1. วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) – เป็นกลุ่มวิตามินที่ช่วยเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน หากขาดจะทำให้สมองล้า ปวดหัว และอ่อนเพลียเรื้อรัง
2. ธาตุเหล็ก (Iron) – จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง เมื่อขาดจะทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น จึงรู้สึกเหนื่อยง่ายและหน้ามืดบ่อย
3. แมกนีเซียม (Magnesium) – ช่วยในกระบวนการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ กล้ามเนื้อ และระบบประสาท หากขาดจะทำให้เกิดตะคริวและอ่อนแรง
4. วิตามินดี (Vitamin D) – ส่งผลต่อการดูดซึมแคลเซียมและระบบภูมิคุ้มกัน คนที่ขาดมักรู้สึกหมดแรงและเจ็บกล้ามเนื้อ
5. โปรตีน (Protein) – เป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมเซลล์ ขาดโปรตีนจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ร่างกายฟื้นตัวช้า
อ่อนเพลียกับตับมีความเชื่อมโยงอย่างไร
ตับเป็นอวัยวะที่ใช้สารอาหารเหล่านี้ในการสร้างพลังงานและขับสารพิษ หากร่างกายขาดวิตามินหรือแร่ธาตุ ตับจะทำงานได้ช้าลง เกิดการสะสมของของเสียในร่างกาย ทำให้รู้สึกเหนื่อย อ่อนแรง และง่วงซึมแม้จะได้นอนพักเต็มที่
ฟื้นฟูร่างกายจากภาวะอ่อนเพลียด้วยอาหารและการดูแลที่ถูกวิธี
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้สด
- เลือกเนื้อปลา ถั่ว และธัญพืชแทนอาหารแปรรูป
- ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยตับขับของเสีย
- พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- เสริมอาหารที่มีสารบำรุงตับ เช่น ซิลิมาริน กลูต้าไธโอน หรือวิตามินบีรวม เพื่อช่วยให้ตับฟื้นตัวและสร้างพลังงานได้ดีขึ้น
อาการอ่อนเพลียจากการขาดวิตามินเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ง่าย หากเราให้ความสำคัญกับโภชนาการและการดูแลตับอย่างเหมาะสม การเติมเต็มสารอาหารที่ขาดจะช่วยให้ร่างกายกลับมามีพลัง สดชื่น สมองปลอดโปร่ง และพร้อมเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
