ยามเช้าของใครหลายคนจะกระปรี้กระเปร่าได้ ต้อง ดื่มกาแฟ มาเป็นตัวช่วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะคาดหวังให้กาแฟแก้วที่ดื่มไปช่วยให้เราได้ตื่นตัวไปทั้งวัน แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่อาจจะคาดไม่ถึงคือมันยังช่วยลด ไขมันพอกตับ โรคที่คนชอบมองข้าม แต่แฝงอยู่ในตัวใครหลายคนอย่างเงียบเชียบ รอวันปะทุขึ้นมาเมื่อกลายเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับในอีกไม่ไกล..
ดื่มกาแฟ วันละนิดสู้ .. ไขมันพอกตับ ได้ !
สายกาแฟที่ติดต้องดื่มในทุกเช้ายิ้มหวานกันได้เลย เพราะคุณอาจจะเผลอดูแลตับให้ห่างไกลจากไขมันที่จะไปพอกโดยไม่รู้ตัว แต่ติดกาแฟที่ว่า..ต้องไม่เติมครีม หรือสารเพิ่มความหวานจนเกินควร ถึงจะเรียกว่าได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ อย่างแท้จริง เพราะสารในกาแฟนั้น มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยลดความผิดปกติที่จะเกิดขึ้นกับตับได้ รวมถึงจากการศึกษาผู้ป่วยโรคตับในประเทศออสเตรเลีย พบว่าผู้ป่วยโรคตับมีค่าพังผืดในตับที่ลดลงที่ เมื่อได้ดื่มกาแฟวันละ 2 แก้วหรือมากกว่านั้น นอกจากนี้กาแฟยังมีคุณประโยชน์อีกหลายอย่างทั้งในแบบที่ใครหลายคนทราบกันดีอยู่แล้ว หรือในแบบที่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึง ได้แก่
– กระตุ้นการตื่นตัวให้ผู้ที่ต้องทำงาน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
– ช่วยเรื่องการเผาผลาญสลายไขมัน เนื่องด้วยตัวคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะไปกระตุ้นการทำงานของเมตาบอลิซึม
– สามารถช่วยชะลอเรื่องความแก่ก่อนวัยจากอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในแก่แฟ เมื่อดื่มในปริมาณพอเหมาะ
– ลดอาการปวดหัว ไมเกรน เพราะคาเฟอีนมีผลช่วยขยายหลอดเลือด และบรรเทาความปวด
TIPS ดื่มกาแฟแบบสายสุขภาพ
– การดื่มแต่พอดี แนะนำว่าไม่ควรเกินสองแก้วต่อวัน โดยการดื่มอย่างพอเหมาะพอควร จะช่วยลดความวิตกกังวล คลายความเครียดได้
– เลือกดื่มกาแฟบดจากเมล็ด จะได้คุณค่าและประโยชน์กว่ากาแฟสำเร็จรูป เพราะจะมีทั้งน้ำตาลและไขมันส่วนเกิน ยิ่งชงกินเองได้ยิ่งดีต่อสุขภาพ โดยหากใครไม่อยาดดื่มขมมาก ใส่กับนมไขมันต่ำ น้ำตาลไม่เยอะ ก็จะไม่ต้องโบกมือทักทายโรคอ้วนที่จะถามหา
– ไม่ควรที่จะดื่มกาแฟตอนท้องว่าง เพราะในกาแฟมีสารเร่งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้เกิดอาการท้องอืดเอาได้หากท้องยังว่างอยู่ ส่งผลให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
เคล็ดลับอีกอย่าง
เพราะทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไขมันพอกตับ เฮฟฟีก้า อาหารเสริมบำรุงตับ พร้อมดูแลคุณและคนที่คุณรัก เพิ่มเพื่อนในไลน์ @hepheka เพื่อเช็คสุขภาพเบื้องต้นด้วยตัวเอง หรือขอรับคำปรึกษา วิเคราะห์สุขภาพตับเป็นรายบุคคล ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย (กรุณาเตรียมค่าเลือด หรือผลตรวจร่างกายล่าสุด ถ้ามี เพื่อเจ้าหน้าที่สามารถให้คำแนะนำได้อย่างชัดเจนมากขึ้น)