“ตับ” คืออวัยวะที่เงียบที่สุดในร่างกาย เพราะแม้จะทำงานหนักทุกวัน แต่แทบไม่แสดงอาการผิดปกติให้เห็นในระยะแรก จนกว่าจะสายเกินไป หนึ่งในโรคร้ายที่มักเกิดจากการละเลยสุขภาพตับก็คือตับแข็ง ภาวะที่เซลล์ตับถูกทำลายจนเกิดพังผืด และทำให้การทำงานของตับเสื่อมลงอย่างถาวร
ทำไมเราต้องดูแลตับตั้งแต่วันนี้
ตับเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการขจัดสารพิษ ผลิตน้ำดี ย่อยไขมัน สร้างพลังงาน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากตับเริ่มเสื่อมโดยที่ไม่รู้ตัว จะทำให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายรวนตามไปด้วย และอาจนำไปสู่ตับแข็งในที่สุด
พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ตับเสื่อมจนเกิดตับแข็ง
- ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ – เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวการหลักที่ทำลายเซลล์ตับโดยตรง
- รับประทานอาหารไขมันสูงและของทอด – ทำให้เกิดไขมันพอกตับ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของตับแข็ง
- พักผ่อนไม่เพียงพอ – ตับจะฟื้นฟูตัวเองได้ดีที่สุดในช่วง 5 ทุ่มถึงตีสอง หากนอนดึกเป็นประจำ ตับจะไม่มีเวลาซ่อมแซม
- ใช้ยาหรือสมุนไพรโดยไม่ระวัง – ยาบางชนิดส่งผลต่อเอนไซม์ในตับ และหากใช้ต่อเนื่องอาจเร่งการเสื่อมของตับ
- ความเครียดและการดื่มน้ำน้อย – ทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงตับลดลง ส่งผลให้ตับทำงานหนัก
เคล็ดลับดูแลตับให้แข็งแรง ป้องกันตับแข็ง
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และอาหารมัน
- ดื่มน้ำสะอาดวันละ 1.5–2 ลิตร เพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
- กินผักผลไม้สด โดยเฉพาะที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น มะเขือเทศ บล็อกโคลี และเบอร์รี
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและลดไขมันสะสมในตับ
- เข้านอนก่อน 23.00 น. เพื่อให้ตับได้ฟื้นฟูเต็มที่
- เสริมสารอาหารที่ช่วยบำรุงตับ เช่น ซิลิมาริน กลูต้าไธโอน และวิตามินบีรวม
ตรวจสุขภาพตับอย่างสม่ำเสมอ
การตรวจค่าการทำงานของตับ (SGOT, SGPT) เป็นประจำทุกปีจะช่วยให้รู้ได้ทันทีว่าตับเริ่มมีความผิดปกติหรือไม่ เพราะตับแข็งมักไม่มีอาการในระยะแรก การตรวจสุขภาพจึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด
การดูแลตับไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอ การพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ดี และเสริมสารบำรุงตับอย่างเหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของตับแข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ร่างกายมีพลังสดชื่นในทุกวัน
