หลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่เขาบอกกันว่า “คำพูดหวานหู บางครั้งมักเคลือบไว้ด้วยยาพิษ” ก็ไม่ต่างอะไรกับความหวาน แต่แฝงไปด้วยอันตรายที่อยู่ในเครื่องดื่มยอดนิยมที่เรา ๆ ส่วนใหญ่ซื้อมาดื่มจุบอร่อยจิบในทุกวันนี้ แต่ไม่ใช่แค่ความอร่อยฟิน ๆ ที่เราจะได้รับเข้าร่างกายอย่างเดียว ไขมันพอกตับ ภัยเงียบอันตรายที่สะสมนานวันเข้า ก็กลายไปเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ เจ้าสิ่งนี้นั้นแฝงอยู่ในเครื่องดื่มหวาน ๆ พร้อมตามเข้าสู่ร่างกายเราไปติด ๆ เช่นกัน
>> อย่าเก็บไขมันพอกตับไว้ในตัว..กำจัดออกไปตั้งแต่วันนี้ <<
ซึ่งความหวานเอง..ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดไขมันเกาะตับได้ รวมถึงเป็นพฤติกรรมที่คนเราหลีกเลี่ยงได้ยากยิ่ง โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำออกมาว่าคนไทยไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัมต่อวัน เรามาดูกันดีกว่าว่า เครื่องดื่มอันตรายเบอร์แรงชนิดไหนบ้าง ? ที่จะขนไขมันมาสะสมที่ตับเรา..รีบหนีให้ห่างก่อนจะสายเกินไป !
5 อันดับ เครื่องดื่มอันตราย ! ติดแล้ว ไขมันพอกตับ ไม่รู้ตัว
อันดับ 5 เครื่องดื่มชูกำลัง
(น้ำตาลต่อขวด 7.5 ช้อนชาโดยประมาณ)
เด็กเตรียมสอบ สายใช้แรง สายโต้รุ่งทั้งหลายอาจจะต้องระวังไว้หน่อย เพราะหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่าเจ้าเครื่องดื่มขยันคึกนี่ ก็ขยันส่งไขมันพอกตับมาให้ด้วยได้ ยิ่งสายหามรุ่งหามค่ำ ที่ต้องทำงาน หรือใช้แรงกายแรงสมองหนักข้ามวันข้ามคืน อาจจะไม่ได้ดื่มแค่ขวดเดียว ต้องซ้ำให้มันฟิตสักอีกขวด นาน ๆ กินทีไม่เป็นไร แต่ถ้าติดเมื่อไหร่..ระวังภาวะไขมันเกาะตับถามหาไม่รู้ตัว
อันดับ 4 น้ำอัดลม
(น้ำตาลต่อขวด 10.75 ช้อนชาโดยประมาณ)
อีกหนึ่งเครื่องดื่มอันตรายที่จะพาสารพัดโรคร้ายมาให้เราได้ไม่ยาก นอกจากโรคอ้วนซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นแพ็คเกจผูกมัดควบมาด้วยแล้ว ยังมีโปรโมชั่นโอบอุ้มตับด้วยไขมันแถมให้เลยฟรี ๆ รวมถึงมีคาเฟอีกที่ทำให้เราติดได้ง่าย ถอนตัวออกไปก็ยาก อีกทั้งขึ้นชื่อว่าเมืองไทย.. 3 ฤดูที่คนในพื้นที่อย่างเราเท่านั้นจะรู้กันดีนั่นคือ ฤดูร้อน ฤดูร้อนมาก ฤดูร้อนไม่ไหวแล้ว(โว้ย)!! การที่จะโดนเจ้าน้ำอัดลมนี่ล่อลวงไปลิ้มลอง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
อันดับ 3 ชานมไข่มุก
(น้ำตาลต่อแก้ว 11.25 ช้อนชาโดยประมาณ)
เครื่องดื่มยอดฮิตที่สร้างปรากฏการณ์ “ชานมไข่มุกจะเยียวยาทุกสิ่ง” ใจดวงน้อย ๆ ที่บอบช้ำของเราอาจจะเยียวยาได้ แต่ที่ไม่ไหวจะเยียวยาก็คือสา-ร(ะ)-ร่างที่นับวันจะบวมเอา บวมเอา จากเจ้าชาไข่มุกที่หลายคนตั้งเป้าไว้ว่าจะลองให้ครบทุกแบรนด์กันไปเลย ! แต่ช้าแต่.. ถึงแม้น้องชานมไข่มุกจะยั่วน้ำลายขนาดไหน แต่ปริมาณน้ำตาลต่อแก้วเกินกว่าที่สาธารณสุขแนะนำให้บริโภคต่อวันเกือบ 2 เท่ากันเลยทีเดียว หากเป็นไปได้ก็ควรจะลดลงแบบนาน ๆ โดนที หรือสั่งแบบหวานน้อย แต่สุขภาพดีนะ ก็ช่วยลดไขมันพอกตับที่จะเข้าไปในร่างกายเราได้เช่นกัน
อันดับ 2 ชาเขียวน้ำผึ้ง
(น้ำตาลต่อขวด 14.5 ช้อนชาโดยประมาณ)
มีให้เลือกหลายแบรนด์ หลายยี่ห้อ ซึ่งเราสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ และหนึ่งในรสชาติยอดนิยมที่หลายคนมักจะชอบดื่มกันก็หนีไม่พ้นรสน้ำผึ้งผสมมะนาว หรือชื่อเต็มยศคือ รสน้ำผึ่งผสมมะนาวนิด ๆ น้ำตาลหนัก ๆ แม้จะอร่อยขนาดไหน แต่ห้ามใจไว้ได้ ไขมันเกาะตับก็ห่างไกลเรามากขึ้นเท่านั้น และยิ่งเดี๋ยวนี้ในท้องตลาดก็ออกรสชาติใหม่เอาใจสายเฮลท์ตี้มากขึ้น ทั้งแบบไม่มีน้ำตาล หรือชาจากใบชาแท้ ไม่เจือความหวาน หากลองเปลี่ยนมาดื่มสูตรอื่นดูนอกจากจะบอกลาโรคร้ายได้ สรรพคุณของชาเขียวยังช่วยในการดีท็อกซ์นร่างกายได้อีกด้วย
อันดับ 1 เหล้า เบียร์
XXXX เครื่องดื่มอันตรายลูกพี่ใหญ่เบอร์แรง พร้อมพังตับได้ทุกเมื่อ XXXX
เชื่อว่าคงมีหลายคนคงเดาอันดับ 1 กันถูก กับเจ้าน้ำเก๊กฮวยบูดฟองฟ่อด เพื่อนคู่ใจสา่ยปาร์ตี้นี่เอง ชื่อเสียงที่สร้างมาของเจ้าเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์นี่ก็ไม่ใช่เล่น ๆ เพราะอย่างที่เรารู้กับว่าปลายทางพี่เหล้า พี่เบียร์ จะพาเราไปสู่จุดหมายตับแข็งได้อย่างมั่นคง แต่ระหว่างทางก็มีแวะรับน้องไขมันพอกตับโดยสารร่วมมาด้วย และสำหรับใครที่เปรี้ยวปาก อดไม่ได้จริง ๆ ควรหาตัวช่วยบำรุงตับ มาฟื้นฟูและล้างสารพิษจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยให้ตับทำงานอย่างได้เต็มประสิทธิภาพ และลดระดับไขมันพอกตับที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมทำร้ายตับที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีพิจารณาหาตัวช่วยบำรุงตับ
✓ มาตรฐานการผลิตต้องเชื่อถือได้ เพื่อไม่ให้ทิ้งสารตกค้าง หรือเป็นการสร้างภาระให้ตับเพิ่มขึ้น
✓ มีงานวิจัยทางการแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสากลรองรับ โดยผ่านการทดสอบในคนจริงมาแล้ว
✓ ปริมาณที่ทานต่อวันไม่จำเป็นต้องทานเยอะ แต่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้อย่างเต็มที่
✓ ผลิตจากวัตถุดิบที่มีสรพพคุณในการลดไขมันซ่งแทรกอยู่ในตับได้ โดยผ่านการศึกษาวิจัยยืนยันมาแล้ว
ตัวพรูนัส มูเม่ สารสกัดจากธรรมชาติที่สามารถขจัดสารพิษออกจากตับ รวมถึงมีงานวิจัยที่ทดสอบในคนจริงซึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ระดับโลกรองรับ จนออกมาเป็น Hepheka อาหารเสริมบำรุงตับ จึงเป็นอะไรที่น่าหามาดูแลให้ตับเรากลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง โดยหากใครสนใจสามารถขอคำปรึกษาปัญหาสุขภาพกันได้ฟรี ๆ ที่ Fanpage และ Line@ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญและเภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำในทุกเวลา
ความหวานเคลือบพิษที่แฝงมาด้วยอันตราย หากหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณลงได้ ประโยชน์ก็ไม่ได้ตกอยู่กับใคร แต่ได้กับสุขภาพตับที่ดีในทุกวันของตัวเราเอง ดูแลตับกันได้ตั้งแต่วันนี้..จะไม่มีคำว่าสายเกินไปให้เสียใจในภายหน้า !
