พฤติกรรมเสี่ยงโรคไขมันพอกตับ

กินอาหารที่มีไขมันสูง อาหารทอด ขนมหวาน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น ชานมไข่มุก น้ำอัดลม และเนื้อกรอบให้มากขึ้น เนื่องจากอาหารทุกชนิดเพียงพอให้กระเพาะย่อยได้ ตับจะถูกแปลงเป็นพลังงาน โดยเฉพาะไขมัน ถ้าเรากินมากกว่าที่ร่างกายกินเข้าไปที่แรกที่ไขมันสะสมก็คือตับ จึงเป็นสาเหตุของโรคไขมันพอกตับ

  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรารู้เรื่องนี้แล้ว แอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเอนไซม์ในร่างกายได้ ส่งผลให้ไขมันส่วนเกินสะสมในเซลล์ตับของตับ อาจกลายเป็นโรคไขมันพอกตับได้
  • ไม่ออกกำลังกายหรือออกกำลังกายน้อยเกินไปเพราะในยุคนี้มีหลายสิ่งที่ทำให้คนเราเลิกออกกำลังกาย เนื่องจากเราเหนื่อยจากการทำงาน เราจึงถูกรายล้อมไปด้วยสื่อต่างๆ เช่น ติดดูละคร อ่านนิยาย ติดโซเชียล สาเหตุเหล่านี้อาจทำให้เราลืมออกกำลังกายได้ ร่างกายจึงไม่เผาผลาญไขมันส่วนเกิน ไขมันสะสมจนเกิดไขมันพอกตับ
  • ผู้ป่วยโรคอ้วนและเบาหวานที่มีไขมันในหลอดเลือดสูงมักมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไขมันพอกตับ เนื่องจากโรคเหล่านี้เกิดจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญในร่างกาย ป้องกันไม่ให้ร่างกายกำจัดไขมัน

ภาวะไขมันพอกตับเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

โรคไขมันพอกตับก็เหมือนระเบิดเวลา หากไม่ได้รับการดูแล ตับจะมีอาการรุนแรงและอาจถึงระดับวิกฤตในที่สุด โรคไขมันพอกตับเกิดจากภาวะที่ร่างกายไม่สามารถใช้ไขมันได้ทั้งหมด เพราะตับมีบทบาทสำคัญในการช่วยเปลี่ยนแปลงสารอาหารที่เราบริโภค กลายเป็นพลังงานและขนส่งไปยังทุกส่วนของร่างกาย หากเราดื่มแอลกอฮอล์และบริโภคอาหารที่มีไขมันมากกว่าที่ร่างกายต้องการ ไขมันที่เหลือจะถูกแทรกเข้าไปในเซลล์ตับ โรคไขมันพอกตับอาจเกิดขึ้นได้หากไขมันสะสมรอบๆ ตับเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การอักเสบของตับ พังผืด โรคตับแข็ง และหากตับไม่แข็งแรง อาจกลายเป็นมะเร็งตับในที่สุด ร่างกายของเราไม่เคยแข็งแรง ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ปกป้องและลดไขมันเกาะตับ ควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต มีหลายวิธี โดยทำตามคำแนะนำด้านล่างนี้
  • เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีไขมันต่ำ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา หรือไก่ ธัญพืชหลากหลายชนิด และรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น อาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสเผ็ด และอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งจำนวนมากควรหลีกเลี่ยง ควรรับประทานอาหารแต่ละมื้อในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากเกินไป
  • ออกกำลังกายเป็นประจำเพราะการออกกำลังกายช่วยให้ระบบของคุณทำงานได้ดีขึ้นโดยการเผาผลาญไขมันและน้ำตาล การวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือชกมวยสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินที่อาจนำไปสู่โรคไขมันพอกตับได้
  • เลิกหรือลดการดื่ม หากเป็นไปได้ แพทย์มักจะแนะนำให้เลิกดื่มแอลกอฮอล์ เพราะหากเราเป็นโรคไขมันพอกตับและดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำอาจทำให้อาการแย่ลงได้
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยซ่อมแซมตับหรือใช้ป้องกันโรคก่อนที่จะเกิดขึ้น เพราะตับทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมีอาการแย่ลงเรื่อยๆ และอาจจะแย่ลงได้ เราขอแนะนำ Natural Helpers เท่านั้น ปลอดภัยกว่าสารเคมีเพราะมีความเสี่ยงต่ำ