เคยกินอย่างเอร็ดอร่อยแต่ชีวิตเริ่มกร่อยเพราะไขมันมาเยือน เจอใครก็มีแต่ทักว่าอ้วนขึ้นหรือเปล่า ถ่ายรูปออกมาก็ขัดใจไปหมด นอกจากน่ากังวลที่ไขมันพอกตัวแล้ว ยังน่ากลัวว่าจะลามมาพอกที่ตับอีกด้วย
กักตัวเป็นเหตุสังเกตได้ อยู่ๆน้ำหนักก็พรุ่งพรวดเพราะเอ็นจอยช่วงกักตัวไปหน่อย พอเปิดประเทศคลายล๊อคเท่านั้นเล่นเอาหลายๆคนกลับมาฟิตหุ่น กลัวว่าน้ำหนักตัวที่เพิ่มจะทำให้ดูไม่ดีกันใหญ่ แต่ขอบอกเลยว่าน้ำหนักตัวที่เพิ่ม ไม่น่ากลัวไขมันพอกตับที่พุ่ง ไขมันในเลือดแบ่งออกเป็นหลายชนิด และไขมันส่วนใหญ่ที่เข้าสู่ร่างกาย ล้วนแล้วมาจากการกิน กิน กิน แล้วก็กินครับ ไขมันมีหน่วยเป็นมิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dl) โดยปกติแล้ว LDL ควรอยู่ระหว่าง 100-129 HDL ควรอยู่ระหว่าง 40-59 และไตรกลีเซอไรด์ไม่ควรเกิน 150 สรุปแล้วคอเรสเตอรอลในร่างกายเรารวมทั้งหมดแล้วไม่ควรเกิน 200 mg/dl นั่นเอง ไม่อย่างนั้นก็จะมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ซึ่งคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหรือมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) สูงกว่า 23 ส่วนใหญ่จะมีโอกาสเป็นไขมันพอกตับ เพราะคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดส่วนใหญ่ผลิตจากตับ หากบริโภคไขมันและน้ำตาลมากเกินไป ร่างกายนำไปใช้ไม่หมด หาที่เก็บสะสมตามร่างกายต่างๆจนเต็มแล้ว คราวนี้กถึงคิวไปสะสมที่ตับกันต่อเลย พอไขมันพอกตับหนาขึ้นเรื่อยๆ ตับก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ จากที่เคยกำจัดสารพิษได้ดี ก็เริ่มกำจัดไม่ได้ แต่ตับทำงานไม่ได้อย่างเดียวก็แย่แล้ว แต่นี่ถ้าตับสูญเสียฟังก์ชันการทำงานยังไม่รวมหน้าที่อื่นๆของตับอีกกว่า 500 อย่าง ยิ่งทำให้มีการผลิตคอเลสเตอรอลปริมาณมากออกมาในกระแสเลือดมากขึ้น แถมยังไม่ค่อยมีอาการให้เห็น เรียกว่าเป็นภัยเงียบที่คืบคลานมาทำร้ายร่างกายเราไปเรื่อยๆ นอกจากจะส่งผลต่อหลอดเลือดไปที่สมองและหัวใจแล้ว ไขมันพอกตับยังเป็นประตูเปิดไปสู่โรคตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับอีกด้วย ต่อให้รอบเอวลดลงก็ใช่ว่าจะรอดพ้นจากโรคตับได้ง่ายๆหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกจุด
อย่าปล่อยให้ไขมันพอกตับเป็นจุดดับของชีวิต พิชิตด้วย #เฮฟฟีก้า เพียงวันละเม็ด นวัตกรรมอาหารเสริมจากประเทศฝรั่งเศสที่มีผลงานวิจัยทางการแพทย์รองรับว่าสารสกัดจาก พรูนัสมูเม่ ช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น ลดคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยปรับระดับไขมันให้สมดุล และดูแลตับระดับเซลล์